My latest images for sale at Shutterstock:

วันอาทิตย์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2564

ล่องเรือเที่ยวกรุงเก่ามรดกโลก เส้นทางอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ( Ayutthaya Historical Park )

         สถานการณ์การ COVID19 เพื่อคลายความเครียดของแต่ละคน วันนี้ชวนไปล่องเรือที่ยวกรุงเก่ามรดกโดลที่อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ( Ayutthaya Historical Park )  จ.พระนครศรีอยุธยา ( ราชธานีเก่า อู่ข้าวอู่น้ำ เลิศล้ำกานท์กวี คนดีศรีอยุธยา ) อุทยานประวัติศาสตร์มรดกโลกของเมืองไทยของเราครับ

ล่องเรือ


จุดขึ้นเรือ "เวล่าครูซส์ (Vela Cruise)"
          เวล่าครูซส์ (Vela Cruise) 53/2 หมู่ที่ 3 ตำบลบ้านเกาะ อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 13000 รายละเอียด

การเดินทางไป "เวล่าครูสซ์ (Vela Cruise)"

แผนที่สำหรับเดินทางไปเวล่าครูซส์ (Vela Cruise)

เดินทางถึงเป้าหมาย "เวล่าครูซส์ (Vela Cruise)"

Vela Cruise
เวล่าครูซส์ (Vela Cruise)
เวล่าครูซส์ (Vela Cruise)
เวล่าครูซส์ (Vela Cruise)
เวล่าครูซส์ (Vela Cruise)
เวล่าครูซส์ (Vela Cruise)

         เส้นทางเดินเรือของเวล่าครูซส์ (Vela Cruise)

แผนที่เส้นทางเดินเรือเวล่าครูซส์สำหรับล่องเรือ
(ที่มารูป : www.google.com/maps)

         รายละเอียดวัดและแหล่งท่องเที่ยวสำคัญในเส้นทางเดินเรือ
      หมายเลข 1. วัดเกาะแก้วเกษฎาราม
      หมายเลข 2. วัดไผ่โสมนรินทร์
      หมายเลข 3. วัดธรรมนิยม
      หมายเลข 4. วัดพิชัยสงคราม
      หมายเลข 6. วัดนางกุย
      หมายเลข 7. วัดขุนพรม
      หมายเลข 9. วัดไชยวัฒนาราม ( Wat Chaiwatthanaram )
      หมายเลข 10. ป้อมเพชร
      หมายเลข 11. โบสถ์นักบุญเซนต์โยเซฟ
      หมายเลข 12. ตำหนักสิริยาลัย
      หมายเลข 13. สะพานปรีดี-ธำรง
      หมายเลข 14. สะพานกษัตรา      

        จากเส้นการเส้นทางการเดินเรือหากวัดระยะทางในแผนที่โดยใช้เครื่องมือใน www.google.com/maps วัดระยะทางที่เรือล่องไป-กลับได้ 24 กิโลเมตรโดยประมาณ และใช้เวลาล่องเรือประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง
   
เวล่าครูซส์
ระยาทางในการเดินเรือ

ล่องเรือ วันที่ 4 ธ.ค.2564

ล่องเรือ วันที่ 17 ธ.ค.2564

           อาหารอร่อย บรรยากาศดี เย็นสบาย ผ่อนคลายที่สุดครับ หรือสำหรับใครที่นิยมท่องเที่ยวแบบไหว้พระ 9 วัด การล่องเรือเส้นทางนี้ก็สามารถไหว้ครบ 9 วัดครับ 
         หากใครชอบการท่องเที่ยวแบบสบายๆ ล่องเรือ ชมโบราณสถาน ตามรอยประวัติศาสตร์ชาติไทย "อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ( Ayutthaya Historical Park )" อีกหนึ่งสถานที่ในเมืองไทยที่เราไม่ควรพลาดไปเยือนครับ...สวัสดีครับ

รูปความละเอียดสูงอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ( Ayutthaya Historical Park ) ทั้งหมด 

อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย (Sukhothai Historical Park) จ.สุโขทัย
อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย (Si Satchanalai Historical Park) จ.สุโขทัย
อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร จ.กำแพงเพชร (Kamphaeng Phet Historical Park) 

วันอังคารที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

จากป่ารกร้างกิ่วเสือแปรเปลี่ยนเป็นอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปีที่ม่อนแจ่ม (Mon Jam)

     วันนี้ชวนทุกท่านไปสูดอากาศให้เต็มปอดที่ ม่อนแจ่ม จ.เชียงใหม่ (ดอยสุเทพเป็นศรี ประเพณีเป็นสง่า บุปผชาติล้วนงามตา นามล้ำค่านครพิงค์) ครับ



ประวัติ/ความสำคัญ "ม่อนแจ่ม (Mon Jam)" 

ม่อนแจ่ม (Mon Jam) 
          เว็บไซต์การท่องเที่ยวปห่งประเทศไทยเขียนเล่าเกี่ยวกับม่อนแจ่ม (Mon Jam)ไว้ดังนี้ "จากพื้นที่ที่ชาวบ้านกันเรียกว่ากิ่วเสือซึ่งเป็นป่ารกร้างมานมนานและมีการแผ้วถางปลูกฝิ่น ได้แปรเปลี่ยนสู่การเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของเชียงใหม่ที่ทุกคนต้องเดินทางไปชื่นชม ความที่ม่อนแจ่มมีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี งดงามด้วยหมอกขาวยามเช้า และมีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์แห่งเทือกเขาสูงสลับซับซ้อนไกลสุดสายตาราวกับภาพฝัน 

ม่อนแจ่ม (Mon Jam) 
         โดย ยอดเขาทางทิศตะวันออกนั้นมีจุดชมวิวที่ชื่อว่า "ม่อนล่อง" ซึ่งเหมาะสำหรับชมทิวทัศน์ของพื้นที่โครงการหลวง และชมทะเลหมอกบนหน้าผาสูง ส่วนทางด้านทิศใต้จะเป็นจุดชมวิวที่มองเห็นหมู่บ้านม้งหนองหอย และพื้นที่ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอยโดยรอบ ซึ่งเป็นโครงการที่เน้นในการทำแปลงปลูกผักและวิจัยพืชเมืองหนาว เช่น อาร์ติโช๊ค สมุนไพรเลมอนทาร์ม มิ้น คาร์โมมายด์ โรสแมรี่ ส่วนไม้ผลนั้น เช่น พลัม องุ่นไร้เมล็ด สตรอว์เบอร์รี่พันธุ์ 80 แปลงผักไฮโดรโพนิกส์ ซึ่งเป็นการปลูกพืชโดยไม่ใช้ดิน เช่น โอ้คลีฟแดง ผักตระกูลสลัด มะเขือเทศดอยคำ ฯลฯ ฤดูท่องเที่ยว ช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับท่องเที่ยวคือ เดือนตุลาคม –กุมภาพันธ์"
     
ที่ตั้ง "ม่อนแจ่ม (Mon Jam)"
            อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่
การเดินทางไป "ม่อนแจ่ม (Mon Jam)"
          การเดินทางไป "ม่อนแจ่ม ข.เชียงใหม่"  รายละเอียดสามารถเดินทางอิงตามแผนที่ด้านล่าง  

แผนที่ม่อนแจ่ม (Mon Jam) จ.เชียงใหม่
   
แผนที่การเดินทางจากตัวเมืองเชียงใหม่ไปม่อนแจ่ม 

เดินทางถึงเป้าหมาย "ม่อนแจ่ม (Mon Jam) 
       เมื่อเดินทางถึงเป้าหมายม่อนแจ่ม (Mon Jam) อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ สิ่งที่ผู้มาเยือนจะได้สัมผัสคือความสุขที่ได้สูดอากาศดีๆ ณ ที่สูงจากภูเขาภาคเหนือของประเทศไทยครับ (ภาพประกอบ : ถ่ายในการเดินทางวันที่ 18 ต.ค.2563)
       ในวันเดินทางผู้เขียนได้หยุดสูดอากาศดีๆ ชมความงดงามของธรรมชาติ 3 จุดด้วยกัน ผู้เขียนขอนำรูปถ่ายทั้ง 3 จุดที่ม่อนแจ่มที่ผู้เขียนไปหาความสุขจากที่นี้มาฝากครับ



       รูปถ่ายจุดที่ 1 

ม่อนแจ่ม (Mon Jam) 

ม่อนแจ่ม (Mon Jam) 

ม่อนแจ่ม (Mon Jam) 

ม่อนแจ่ม (Mon Jam) 

ม่อนแจ่ม (Mon Jam) 

ม่อนแจ่ม (Mon Jam) 

ม่อนแจ่ม (Mon Jam) 

ม่อนแจ่ม (Mon Jam) 

ม่อนแจ่ม (Mon Jam) 

ม่อนแจ่ม (Mon Jam) 

ม่อนแจ่ม (Mon Jam) 

       รูปถ่ายจุดที่ 2
ม่อนแจ่ม (Mon Jam) 


ม่อนแจ่ม (Mon Jam) 

ม่อนแจ่ม (Mon Jam) 

ม่อนแจ่ม (Mon Jam) 

ม่อนแจ่ม (Mon Jam) 

       ณ จุดที่ 2 ป้ายบริเวณนั้นของจุดท่องเที่ยวม่อนแจ่มได้เขียนเล่าให้ฟังเกี่ยวกับพื้นที่บริเวณนั้นไว้ดังนี้ครับ
รูปแสดงตำแหน่งพิ้นที่ต่างๆบริเวณม่อนแจ่มจุดที่ 2

       "แปลงปลูกไม้เป็นแนวป้องกันลม (หมายเลข 1)
       เป็นการปลูกไม้เพื่อเป็นแนวป้องกันลม ลดแรงปะทะของลม ที่อาจสร้างความเสียหายให้กับสวนไม้ผล โดยไม้ที่ปลูกมีลักษณะทรงสูง มีกิ่งก้านน้อย ชนิดที่ใช้ได้ดี เช่น ไม้ไผ่
       แปลงทดสอบพันธุ์ไม้ผล ได้แก่ พลัมสายพันธุ์ต่างๆ และกีวี

แปลงปลูกไม้เป็นแนวป้องกันลม หมายเลข 1

       แปลงปลูกป่าชาวบ้านในระบบวนเกษตร (หมายเลข 2)
       เป็นการปลูกไม้แบบผสมผสานในพื้นที่เดียวกัน เน้นการปลูกไม้โครงสร้างขนาดใหญ่ ได้แก่ ซิลเวอร์โอ๊ค นางพญาเสือโคร่ง ไม้ชั้นรองเป็นไม้ขนาดปานกลางให้ผล เช่น อะโวคาโด และไม้พื้นล่าง เช่น กาแฟ
       แปลงสาธิตการปลูกป่าตามต้นแบบดอยอ่างขาง (หมายเลข 3)
       เป็นการปลูกไม้โตเร็วทดลองตามต้นแบบดอยอ่างขาง เริ่มปลูกในปี 2554-2555 ไม้ที่ปลูกเป็นไม้โตเร็ว ได้แก่ เมเปิ้ลหอม จันทร์ทองเทศ การบูร กระถินดอย นางพญาเสือโคร่ง ไผ่บงใหญ่ ไผ่หวานอ่างขางและไผ่หยกเป็นต้น ปัจจุบันได้เพิ่มความหลากหลายด้วยการปลูกพืช สมุนไพร พืชหัว พืชเลื่อย และแทรกด้วยกาแฟตามช่องว่างระหว่างต้นไม้

แปลงสาธิตการปลูกป่าตามต้นแบบดอยอ่างขาง หมายเลข 3

       แปลงปลูกไม้ยืนต้นและพืชสมุนไพร (หมายเลข 4)
       เป็นการปลูกไม้ผลยืนต้นที่มีศักยภาพในการฟื้นฟูป่า สามารถให้ผลผลิตและช่วงค้านการอนุรักษ์ดินและน้ำได้ ช่องว่างระหว่างต้นไม้ยังสามารถปลูกพืชสมุนไพรแทรกได้
       แปลงไม้ยืนต้นให้ผลให้ดอก (หมายเลข 5)
       เป็นการปลูกไม้ยืนต้นประเภทไม้ป่าท้องถิ่นที่สามารถให้ดอกให้ผล หรือไม้ที่มีรูปทรงต้นสวยงาม เช่นท้อ บ้วย มะขามป้อม ก่อเดือย ก่อแป้น หว้า นางพญาเสือโคร่ง และเลี้ยวดอกขาว"

แปลงไม้ยืนต้นให้ผลให้ดอก หมายเลข 5
แปลงไม้ยืนต้นให้ผลให้ดอก หมายเลข 5

       บริเวณจุดที่ 2 จะมีจำนวนผู้มาเยือนเป็นจำนวนมาก หากมาม่อนแจ่ม ณ จุดนี้คือจุดที่ห้ามพลาดเมื่อได้มาเยือนครับ

ม่อนแจ่ม (Mon Jam) จุดที่ 2

ม่อนแจ่ม (Mon Jam) จุดที่ 2

ม่อนแจ่ม (Mon Jam) จุดที่ 2

ม่อนแจ่ม (Mon Jam) จุดที่ 2

ม่อนแจ่ม (Mon Jam) จุดที่ 2

ม่อนแจ่ม (Mon Jam) จุดที่ 2

ม่อนแจ่ม (Mon Jam) จุดที่ 2
ม่อนแจ่ม (Mon Jam) จุดที่ 2

       รูปถ่ายจุดที่ 3
ม่อนแจ่ม (Mon Jam) จุดที่ 3

ม่อนแจ่ม (Mon Jam) จุดที่ 3

ม่อนแจ่ม (Mon Jam) จุดที่ 3

ม่อนแจ่ม (Mon Jam) จุดที่ 3

ม่อนแจ่ม (Mon Jam) จุดที่ 3

ม่อนแจ่ม (Mon Jam) จุดที่ 3

ม่อนแจ่ม (Mon Jam) จุดที่ 3

       มาเยือนม่อนแจ่มไม่ต้องกลัวปัญหาเรื่องไม่มีสัญญานโทรศัพท์ครับ มีเสาสัญญานโทรศัพท์จากผู้ให้บริการหลักในประเทศไทยครับ

เสาสัญญานโทรศัพท์จากผู้ให้บริการหลักในประเทศไทยที่ม่อนแจ่ม

เสาสัญญานโทรศัพท์จากผู้ให้บริการหลักในประเทศไทยที่ม่อนแจ่ม

     หากใครชอบการท่องเที่ยวแบบสบายๆ ขับรถกินลม สัมผัสเสน่ห์แห่งเมืองเหนือ สูดอากาศให้เต็มๆปอด   "ม่อนแจ่ม (Mon Jam)" อีกหนึ่งสถานที่ในเมืองไทยที่ไม่ควรพลาดไปเยือนครับ...สวัสดีครับ


Download รูปความละเอียดสูงอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปีที่ม่อนแจ่ม (Mon Jam)