วัดกุฎีดาว (Wat Khudeedao) จ.พระนครศรีอยุธยา ( ราชธานีเก่า อู่ข้าวอู่น้ำ เลิศล้ำกานท์กวี คนดีศรีอยุธยา ) วัดขนาดใหญ่สมัยอยุธยาที่มีสภาพที่ดีมากที่สุดแห่งหนึ่งที่ตกทอดมาถึงปัจจุบัน วันนี้เราจะไปตามรอยโบราณสถานวัดสมัยอยุธยาครับ
ประวัติ/ความสำคัญ : วัดกุฎีดาว (Wat Khudeedao)
ป้ายบริเวณวัดกุฎีดาว (Wat Khudeedao) เขียนเล่าให้ฟังว่า "วัดกุฎีดาว (Wat Khudeedao) ตั้งอยู่นอกเกาะเมืองอยุธยาทางด้านทิศตะวันออก หันหน้าไปทางทิศตะวันออก มีเจดีย์ทรงระฆังเป็นประธานของวัดจากการศึกษาทางด้านโบราณคดีพบว่าวัดนี้สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนต้นและถูกทิ้งร้างไปเมื่อคราวเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 ใน พ.ศ.2310"
เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ จ.พระนครศรีอยุธยา เขียนเล่าให้ฟังต่อว่า "กรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนวัดกุฎีดาวเป็นโบราณสถานของชาติโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 52 ตอนที่ 75 ลงวันที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2418"
สถานที่ตั้ง วัดกุฎีดาว (Wat Khudeedao)
อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา
การเดินทางไป วัดกุฎีดาว (Wat Khudeedao)
แผนที่สำหรับเดินทางไปวัดกุฎีดาว (Wat Khudeedao)
เมื่อเราเดินทางไปถึงวัดกุฎีดาว (Wat Khudeedao) เราไปสำรวจสถาปัตยกรรมวัดขนาดใหญ่สมัยอยุธยาที่มีสภาพที่ดีมากที่สุดแห่งหนึ่งที่ตกทอดมาถึงปัจจุบันกันครับ (รูปประกอบ : การเดินทางวันที่ 11 พ.ย.2559)
ปรากฎข้อความในพงศาวดารว่า เมื่อครั้งที่สมเด็จพระเจ้าบรมโกศทรงบูรณปฏิสังขรณ์พระอารามนี้ พระองค์เสด็จมาทอดพระเนตรการบรณะเป็นครั้งคราว สันนิษฐานว่าพระองค์น่าที่จะมาประทับที่ตำหนักนี้ "
หลังจากชมสถาปัตยกรรมที่ได้รับอิทธิพลมาจากตะวันตกแลัวเราเข้าไปภายในบริเวณภายในวัดชมความงามทางสถาปัตยกรรมของวัดต่อครับ
เจดีย์ประธานวัดกุฎีดาว
ป้ายบริเวณเจดีย์ประธานเขียนเล่าว่า "เป็นเจดีย์ทรงระฆังย่อมุมไม้ยี่สิบ ลักษณะของฐานเจดีย์มีอิทธิพลของเจดีย์ในศิลปะมอญ บนลานประทักษิณมีเจดีย์รายจำนวน 8 องค์ล้อมรอบเจดีย์ประธาน องค์เจดีย์มีร่องรอยการก่อพอกซึ่งน่าจะเป็นการก่อสร้างในการปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่ในสมัยสมเด็จพระบรมโกศ"
ด้านหน้าเจดีย์ประธาน คือ พระอุโบสถ
ป้ายบริเวด้านหน้าพระอุโบสถเขียนเล่าว่า "เป็นอาคารรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าหันหน้าไปทางทิศตะวันออกขนาดกว้าง 15.40 เมตร ยาว 27.80 เมตร มีมุขยื่นออกมาทางด้านหน้าและด้านหลังและมีบรรไดทางขึ้นทั้งสองด้าน มีประตูทางเข้าที่ผนังด้านหน้า 3 ประตู ซึ่งประตูช่องกลางเป็นประตูของมุข ส่วนด้านหลังมี 2 ประตู ผนังด้านข้างเจาะช่องหน้าต่างด้านละ 8 ช่อง โดยทำเป็นหน้าต่างจริงและหน้าต่างหลอกสลับกัน ทั้งนี้อาจจะเป็นเพราะปัญหาเรื่องการรองรับน้ำหนักหลังคา ตัวอาคารตั้งอยู่บนฐานที่แอ่นโค้งเป้นรูปท้องเรือสำเภา ซึ่งเป็นรูปแบบของอาคารที่นิยมสร้างในสมัยอยุธยาตอนปลาย"
ป้ายบริเวณเจดีย์ประธานเขียนเล่าว่า "เป็นเจดีย์ทรงระฆังย่อมุมไม้ยี่สิบ ลักษณะของฐานเจดีย์มีอิทธิพลของเจดีย์ในศิลปะมอญ บนลานประทักษิณมีเจดีย์รายจำนวน 8 องค์ล้อมรอบเจดีย์ประธาน องค์เจดีย์มีร่องรอยการก่อพอกซึ่งน่าจะเป็นการก่อสร้างในการปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่ในสมัยสมเด็จพระบรมโกศ"
มีส่วนของเจดีย์ซึ่งหักโค่นลงมาไม่ห่างจากฐานเจดีย์ทำให้เราเห็นความใหญ่โตเจดีย์ประธานองค์นี้ครับ
ป้ายบริเวด้านหน้าพระอุโบสถเขียนเล่าว่า "เป็นอาคารรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าหันหน้าไปทางทิศตะวันออกขนาดกว้าง 15.40 เมตร ยาว 27.80 เมตร มีมุขยื่นออกมาทางด้านหน้าและด้านหลังและมีบรรไดทางขึ้นทั้งสองด้าน มีประตูทางเข้าที่ผนังด้านหน้า 3 ประตู ซึ่งประตูช่องกลางเป็นประตูของมุข ส่วนด้านหลังมี 2 ประตู ผนังด้านข้างเจาะช่องหน้าต่างด้านละ 8 ช่อง โดยทำเป็นหน้าต่างจริงและหน้าต่างหลอกสลับกัน ทั้งนี้อาจจะเป็นเพราะปัญหาเรื่องการรองรับน้ำหนักหลังคา ตัวอาคารตั้งอยู่บนฐานที่แอ่นโค้งเป้นรูปท้องเรือสำเภา ซึ่งเป็นรูปแบบของอาคารที่นิยมสร้างในสมัยอยุธยาตอนปลาย"
ป้ายบริเวด้านหน้าพระวิหารเขียนเล่าว่า "เป็นอาคารรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าหันหน้าไปทางทิศตะวันออกขนาดกว้าง 14.10 เมตร ยาว 27 เมตร มีมุขยื่นออกมาทางด้านหน้าและด้านหลัง มีประตูทางเข้าที่ด้านหน้าและด้านหลังด้านละ 2 ประตู ผนังด้านข้างเจาะช่องหน้าต่างด้านละ 3 ช่อง ตัวอาคารตั้งอยู่บนฐานที่แอ่นโค้งเป้นรูปท้องเรือสำเภา ซึ่งเป็นรูปแบบของอาคารที่นิยมสร้างในสมัยอยุธยาตอนปลาย"
หากใครชอบการท่องเที่ยวแบบสบายๆ ขับรถกินลม ชมสถาปัตยกรรมโบราณสถาน ไหว้พระ ตามรอยประวัติศาสตร์ “วัดกุฎีดาว (Wat Khudeedao)” อีกหนึ่งสถานที่ในเมืองไทยที่เราไม่ควรพลาดไปเยือนครับ...สวัสดีครับ
วัดพระศรีสรรเพชญ์ จ.พระนครศรีอยุธยา วัดสำคัญที่สุดของราชสำนักอยุธยา
วัดพระเมรุราชิการาม วัดที่ใช้ทำสัญญาสงบศึกกับพระเจ้าหงสาวดีบุเรงนอง ( Wat Na Phra Mane )
วัดไชยวัฒนาราม ( Wat Chaiwatthanaram )
วัดมหาธาตุ พระอารามหลวงในสมัยอยุธยาที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ (Wat Maha That)
วัดใหญ่ชัยมงคล (Wat Yai Chaimongkhon) อนุสรณ์เฉลิมพระเกียรติและสัญลักษณ์แห่งการอภัยทานของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช
มหาสงกรานต์ มหามงคล ไปสรงน้ำพระงานหลวงปู่ทวด ประจำปี 2559
สรงน้ำหลวงปู่ทวดปี 2558
เที่ยวประเพณีแห่เทียนพรรษาทางน้ำที่ลาดชะโด หนึ่งปีมีครั้ง
ตลาดน้ำคลองสระบัว ( Ayutthaya Klong Sa Bua Floating Market & Water Theatre ) : กำลังอยู่ระหว่างการปรับปรุงกิจการ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น